สถานที่ท่องเที่ยวประเทศจีน เที่ยวปักกิ่ง
ปักกิ่ง (Beijing) เป็นเมืองหลวงของประเทศจีนและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก จำนวนประชากรที่ถูกนับอย่างเป็นทางการในปี 2012 อยู่ที่ 20,693,000 คน กรุงปักกิ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ปกครองโดยตรงผ่านรัฐบาลของจีน กรุงปักกิ่ง (Beijing) นั้นประกอบไปด้วย 16 เขต และ 2 อำเภอ
ปักกิ่ง (Beijing) เป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศจีนรองจากเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่งนั้นยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดทางการเมือง, วัฒนธรรม และ การศึกษาของประเทศ แถมปักกิ่งนั้นยังเป็นศูนย์รวมของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ส่วนมากบริษัทเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล และยังเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมต่างๆ เช่นทางด่วน, เส้นทางไฮเวย์ และ รถไฟความเร็วสูงต่างๆของประเทศอีกด้วย
เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับปักกิ่งก็คือสนามบินของปักกิ่งหรือ Beijing Capital International Airport นั้นมีผู้โดยสารมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว ซึงตั้งอยู่ในเขต Shunyi ห่างออกไป 25 กิโลเมตรทางด้านเหลือของ จตุรัสเทียนอันเหมิน
กรุงปักกิ่งนับเป็นเมืองที่คุณ “ต้องมา” หากคุณมีโอกาสได้เที่ยวประเทศจีน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวประเทศจีนที่น่าสนใจหลากหลายประเภท ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์, โบราณสถาน, ศาสนา, วัฒนธรรมเก่าแก่, สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, แหล่งช็อปปิ้งทันสมัย ฯลฯ.
1. สนามบินนานาชาติปักกิ่ง
เริ่มจากสนามบินกรุงปักกิ่งก่อนเลย เมื่อคุณลงมาจากเครื่องจะได้พบกับสนามบินที่สำคัญที่สุดและพลุกพล่านที่สุด ของเมืองจีน สนานบินนานาชาติปักกิ่งนั้นมีความกว้างขวางมาก
สนามบินกรุงปักกิ่งนั้นประกอบไปด้วยอาคารโดยสารถึง 3 อาคาร มีมาตราฐานของการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมีสารการบินให้บริการอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ถึง 66 สายการบิน ซึ่งขณะนี้สายการบินมีการบินไปยัง 88 เมืองภายในประเทศ และ 69 เมืองต่างๆรอบโลก
2. สนามกีฬาโอลิมปิกปี 2008 (Bird s Nest Stadium)
สนามกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่งที่ ได้ใช้งานในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ตั้งอยู่ในเขต Chaoyang แต่เมื่อโอลิมปิก 2008 จบลง สนามกีฬารังนกแห่งนี้ได้ถูกเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไป เยี่ยมเยียนอีกแห่งหนึ่งของมหานครปักกิ่ง แถมในบางโอกาสยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาทั้งในประเทศและจากต่าง ประเทศอีกเช่นกัน สนามกีฬาแห่งนี้มักจะมีโปรแกรมเที่ยวปักกิ่งจากต่างประเทศมาที่นี่อยู่แทบทุกวัน
สนามกีฬากรุงปักกิ่งได้ถูกออกแบบ โดยสองสถาปนิกชาว สวิส นามว่า Jacques Herzog และ Pierre de Meuron ร่วมกับสนาปนิกจีนชื่อดังอีกหลายคน
การออกแบบสนาม กีฬาแห่งนี้นั้นถูกออกแบบมาให้เหมือนกันรังนก ที่โอบอุ่มและดูแลมนุษย์ชา แม้ว่าจะทำจากเหล็กแต่ก็ดูเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก สนามบินแห่งนี้ใช้เงินมหาศาลในการสร้างถึง 2,267 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 33 ล้าน เหร็ญสหรัฐ
3. จตุรัสเทียนอันเหมิน (Tienanmen Square)
จตุรัสเทียนอันเหมินอันโด่งดังของเมืองปักกิ่ง ตั้งอยู่ในกลางเมืองปักกิ่งเลย หากคุณแวะมาที่จตุรัสเทียนอันเหมินนั้น สถานที่ที่คุณต้องไปคือ Monument to the People s Heroes, Great Hall of the People, Mao Zedong Memorial Hall และดูการชักธงชาติขึ้นสู่เสา
ทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนแวะมาเยี่ยมที่นี่หลายพันคนต่อวัน จตุรัสเทียนอันเหมินนั้นเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่า คุณจำเป็นต้องมาให้ได้ หากมาที่ปักกิ่ง เพราะที่นี่นอกจากจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของประเทศจีนแล้ว ยังได้ชมความสวยงามของจตุรัสเทียนอันเหมินซึ่งยากที่จะลืม
4. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) เที่ยวจีน
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าไปเป็นอย่างยิ่งของปักกิ่ง สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระราชวังหลวงของจักรพรรดิถึง 24 สมัย ในช่วงราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ครั้งแรกมันถูกสร้างขึ้น 14 ปีในช่วงราชวงศ์หมิงของจักรพรรดิ เฉ่งซู (1368-1644) นักดาราศาสตร์จีนสมัยโบราณเชื่อว่า ดาวม่วง (Polaris) เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ และ จักรพรรดิ์แห่งสรวงสวรรค์นั้นจะอาศัยอยู่ในราชวังสีม่วง ส่วนราชวังของจักรพรรดิที่อยู่บนโลกนั้นจะถูกเรียกว่าเมืองสีม่วง (Purple City) ซึ่งมันถูกขนานนามว่า พระราชวังต้องห้าม ก็เพราะว่า การที่จะเข้าไปในส่วนของตัวพระราชวังนั้นต้องได้รับการยินยอมจากจักรพรรดิโดยตรง (ในสมัยก่อนอาจมีการเรียกว่า พระราชวังต้องห้ามสีม่วง)
ส่วนของพระราชวังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนใต้ หรือ ส่วนนอกซึ่งเป็นที่ที่จักรพรรดิและกล่าวพระราชสารน์ต่างๆต่อบุคคลภายนอก / ส่วนพระราชวังส่วนใต้ หรือ ส่วนในถูกใช้เป็นที่พำนักของจักรพรรดิและพระญาติใกล้ชิด
พระราชวังต้องห้าม ได้ถูกใช้เป็นพระราชวังของจักรพรรดิมากว่า 5 ศตวรรต ทำให้มีสมบัติมากมายและความน่าฉงนต่างๆเกี่ยวกับราชวงศ์ของจีนถูกซ้อนไว้
UNESCO ได้ยกให้พระราชวังต้องห้ามเป็นมรดกโลก (World Cultural Heritage) ในปี 1987 ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ถูกยอมรับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม สูงสุดของโลก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าหากคุณอยากมาทัวร์ที่ประเทศจีนแล้วหละก็พระราชวังต้องห้ามเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด
5. วัดลามะ (Lama Temple) เที่ยวจีน
วัดลามะทางภาษาจีนกลางเรียกว่า ยงเหอกง หมายถึงพระราชวังที่เป็นที่พำนักขององค์ชายสี่ในสมัยราชวงศ์ ชิง วัด ลามะตั้งอยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง สร้างในสมัยจักรพรรดิ คังซี ( ค.ศ.1694) ต่อมาจักรพรรดิคังซี ได้พระราชทานให้เป็นที่พำนักขององศ์ชายสี่ ซึ่งก็คือจักรพรรดิ ยงเจิ้ง ที่ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา หลังจากที่จักรพรรดิ ยงเจิ้ง ขึ้นครองราชย์แล้ว วัดลามะได้ถูกทำให้กลายเป็นพระราชวังอีกแห่งหนึ่งของจักรพรรดิ ยงเจิ้ง หลังจากที่จักรพรรดิ ยงเจิ้ง เสด็จสวรรคตแล้ว พระศพถูกตั้งไว้ที่วัดลามะเพื่อประกอบพิธีกรรมตามราชประเพณี ด้วยเหตุนี้กระเบื้องสีเขียวบนหลังคาของตำหนักในวัดลามะถูกเปลี่ยนเป็น กระเบื้องสีทอง จักรพรรดิ เฉียนหลง ( บุตรชายคนที่สี่ของ จักรพรรดิ ยงเจิ้ง ) ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ต่อจากจักรพรรดิ ยงเจิ้ง ก็ได้ประสูติที่วัดลามะนี้เช่นกัน
ภายในวัดลามะมีพระตำหนักหลายหลัง เช่น หย่งโย่วเตี้ยน ( ภายในประกอบด้วยห้องนอน และห้องหนังสือขององศ์ชาย และเป็นที่ตั้งพระศพของจักรพรรดิ ยงเจิ้ง หลังเสด็จสวรรคต มีพระพุทธรูปที่มีความสูง 2.35 เมตร ตั้งประดิษฐานอยู่ในตำหนัก ) ซึ่งวัดลามะก็เป็นอีกสถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอีกแห่งหนึ่ง ของกรุงปักกิ่ง จากความสวยงามทางด้านสถาปนิกและความน่าสนใจของเรื่องราวความเป็นมาของตัววัด
6. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)
พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ตั้งอยู่ในเขต Haidian ทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ห่างออกไปเพียง 15 กิโลเมตรจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีนตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน พระราชวังฤดูร้อนนั้นได้ถูกบำรุงรักษาเป็นอย่างดีตั้งแต่ได้ดำเนินการสร้าง ในปี 1750 จึงเป็นสถานที่ที่สวยสดงดงามทั้งในด้านวิวทิวทัศน์และทางด้านวัฒนธรรม
แม้กระนั้นจากการรุกรานของกองกำลังพันทมิตรฝรั่งเศษ สวนแห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้ไปบางส่วน และได้ถูกซ่อมบำรุงอยู่หลายครั้งหลังจากนั้น – เที่ยวปักกิ่ง
สุดท้ายสวนของพระราชวังฤดูร้อนได้ถูกเปิดให้สาธารณะเข้าชมได้ในปี 1924 และได้รับให้เป็นมรดกโลกจากองการ UNESCO ในปี 1998 และได้ถูกขนานนามว่าเป็นสถานที่ที่ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ หากคุณแวะเวียนมาเยี่ยมกรุงปักกิ่ง
7. เขาเซียงซาน (Xiangshan Mountain)
เขาเซียงซาน (Xiangshan mountain) เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็น สถานที่ที่ต้องมา หากคุณบินมาเที่ยวเมืองจีน เขาเซียงซานนั้นอยู่ห่างออกไปเพียง 20 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง
ภูเขาแห่งนี้มีตำนานสืบทอดมา อย่างยาวนาน เพราะได้ถูกใช้เป็นที่พักพิงของเหล่าราชวงศ์เรื่อยมาตั้งแต่ราชวงศ์ จิน หยวน หมิง จนมาถึงราชวงศ์หลังสุดคือราชวงศ์ ชิง โดยในสมัยของ ฮองเต้เฉียนหลงฮ่อง ได้มีการก่อสร้างพระตำหนักเพื่อเป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ส่วนตัวขององค์จักรพรรดิ
ส่วน เทศกาลชมใบไม้สีแดงนั้นมีระยะเวลาไม่นานนักในแต่ละปี (2-3 อาทิตย์ เท่านั้น) ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี จึงทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่มาเยี่ยมเยือนที่เขาเซียน ซาน แต่พลาดโอกาสที่จะได้รับชมเทศกาลใบไม้แดงอันลือชื่อ ได้ชมเพียงกิ่งไม้แห้งๆที่หลงเหลือหลังจากหมดช่วงผลิใบลงแล้ว เที่ยวปักกิ่ง
นอกจาก เทศกาลอันน่าประทับใจแล้ว ยังมีสถานที่อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันอย่างจุใจ เช่น ร้านขายของที่ระลึก อาหาร ขนม ต่างๆตลอดทางที่จะขึ้นไปบนประตูทางเข้าด้านบน แถมยังมีศิลปินวาดรูปเหมือนนั่งให้บริการอยู่ตามทางเดินอีกด้วย
8. ช้อปปิ้งที่ The Place (ซื่อ เม่า เทียน เจีย)
แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงปักกิ่ง ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี มีชื่อเสียงโด่งดังต่อชาวโลกจากหน้าจอ LED ขนาดมหึมา (ยาว 250 เมตร กว้าง 30 เมตร อะไรจะใหญ่ปานนั้น) เพราะฉะนั้นหากอยากจะได้บรรยากาศที่ดีที่สุดของสถานที่แห่งนี้แนะนำให้คุณมา ในช่วงเย็น
The Place ยังเปนแหล่งอาหารการกินและแหล่งช้อปปิ้งชั้นเลิศ คุณสามารถหาสินค้าแบรนด์เนมต่างๆได้จากที่นี่ หากคุณตัดสินใจที่จะบินมาเที่ยวเมืองจีน และมหานครปักกิ่งแล้ว The Place เป็นอีกสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด หากคุณต้องการจะได้เห็นแสงสีของตลาดคนเมืองของกรุงปักกิ่ง
9. หอสักการะฟ้าเทียนถาน (หอสักการะฟ้าดิน, Temple of Heaven)
หอ สักการะฟ้าเทียนถาน เดิมถูกเรียกว่าหอสักการะฟ้าดิน ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1420 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 14 ปี หอสักการะฟ้านั้นเป็นสถานที่ทางศาสนามาตั้งแต่ยุคโบราณ ในรัชสมัยของราชวงศ์ หมิง และ ชิง หอสักการะฟ้าแห่งนี้ได้ถูกก่อสร้างขึ้นมาโดยจักรพรรดิหย่งเล่อ จักรพรรดิองค์ที่สามของราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นผู้เดียวกันที่ได้ทำการสร้างพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)
หอสักการะฟ้าได้ถูกบูรณะและซ่อม บำรุงหลายครั้งจนกระทั่งเมื่อปี 1889 ได้ถูกฟ้าผ่าจนเกิดความเสียหาย จึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1906 ซึ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ภายในได้มีการสร้างให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 32.5 เมตร และ สูง 38 เมตร โดยมิได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งเป็นวิธีการก่อสร้างอาคารไม้ในสมัยก่อน เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปแล้ว สิ่งแรกที่เห็นก็คือลานหินอ่อนทรงกลมขนาดใหญ่ แบ่ง 3 ขั้น 3 ระดับ แต่ละชั้นล้อมด้วยลูกกรงหินอ่อน เช่นเดียวกับที่เห็นในพระราชวังต้องห้ามเมื่อตอนเช้า ลานทรงกลมนี้มีชื่อว่า หยวนชิวซึ่ง ลานชั้นบนสุด ใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปยืนถ่ายภาพตรงจุดศูนย์กลางกันเป็นจำนวนมาก
“หยวน ชิว” หรือ “แท่นบวงสรวงฟ้า” หรือว่า หอสักการะฟ้าเทียนถัน มีลักษณะทรงกลม เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีเซ่นไหว้ฟ้าในช่วงฤดูหนาวของในแต่ละปีและสามารถ ขอฝนในช่วงฤดูร้อน จักรพรรดิของเมืองจีน จะต้องเสด็จมา ณ สถานที่แห่งนี้เพื่อกราบไหว้ขอบคุณสวรรค์ที่ ช่วยบันดาลความสมบูรณ์พูนสุขแห่งพืชผลมาตลอดปี “แท่นบวงสรวงฟ้า” มีฐานทั้ง 3 ชั้น ได้มีการสร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาว ซึ่งมีความสูงกว่า 5 เมตร เมื่อยืนอยู่จากจุดของ “แท่นบวงสรวงฟ้า”แล้ว มองไปทั้งสี่ทิศจะสามารถเห็นท้องฟ้าสีครามที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ส่วนจุดของพื้นที่เท้ากำลังสัมผัสอยู่นั้นเป็นฐานหินสีขาวอมเทา ทำให้รู้สึกประดุจยืนอยู่ท่ามกลางมวลหมอกในท้องทะเลกว้างหรือเหมือนอยู่บน ชั้นอวกาศ
คุณอาจจะแวะไปชมตำหนักหวงฉงอี่ เป็น สถานสําหรับเก็บรักษาแผ่นป้ายพระนามเทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์ตําหนักนี้ล้อม รอบด้วยกําแพงเตี้ย ๆ กําแพงนี้สร้างถูกต้องตามหลักวิชาว่าด้วยเสียง จึงสะท้อนเสียงได้จนเป็นที่เลื่องลือ เมื่อสองคนยืนอยู่ที่กําแพงคนละฟาก คนหนึ่งพูดใส่กําแพงเบา ๆ อีกคนหนึ่งเอาหูแนบกับกําแพง ก็จะได้ยินเสียงพูดจากฝ่ายตรงกันข้าม
10. ถนนหวังฟู่จิง (Wangfujing Street)
ถนนหวังฟู่จิง (Wangfujing Street) สถานที่ช็อปปิ้งที่ขึ้นชื่อมากอีกแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง ถนนเส้นนี้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาแวะเวียนมาปักกิ่งเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เรียกง่ายๆว่าทุกคนที่มาปักกิ่งต้องมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรกายาศช็อปปิ้งยามค่ำคืนที่นี่ ร้านค้าที่นี่มีทั้งร้านค้าเก่าแก่ของประเทศจีนที่อยู่มาเป็นร้อยปี และร้านค้าที่ทันสมัย กระจายอยู่ท่ามกลางตึกเก่าใหม่ สลับกันไป ดูคลาสสิก และ น่าประทับใจเป็นยิ่งนัก
11. ตลาดรัสเซีย ทัวร์ปักกิ่ง
แหล่งช้อบปิ้งของก็อปปี้เกรด AAA+ ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของกรุงปักกิ่ง ซึ่งตลาดรัสเซียนั้นเป็นตึก 5 ชั้น บวกกับอีก 1 ชั้นซึ่งเป็นอาคารใต้ดิน ราคาสินค้าที่นี่หากคุณซื้อเป็นจำนวนมาก ลองต่อไปเลยครับ ซัก 70-80% เพราะพ่อค้า แม่ค้า ที่นั่นมีโอกาสลดให้คุณได้มากสุดๆจริงๆ แถมตลาดรัสเซียนั้นยังเป็นที่ที่เปิดแอร์เย็นสบาย เดินง่าย แต่ข้อควรระวังก็คือ แม่ค้า พ่อค้า ที่นี่ชอบมัดมือชก บังคับซื้อ อยู่บ่อยครั้ง หากใครมาเที่ยวจีน และอยากจะซื้อของดีราคาแสนถูกกลับบ้านหละก็ที่นี่ห้ามพลาดเด็ดขาด
- ชั้นใต้ดิน สินค้าจะเป็นประเภท รองเท้า กระเป๋าเดินทางหลากชนิด และ สินค้าจำพวกเครื่องหนัง
- ชั้น 1-4 สินค้าจะเป็นประเภทเสื้อผ้า และ ของฝากต่างๆ
- ชั้น 5 นั้นเป็นฟูดคอร์ท คุณสามารถไปชิมอาหารราคาประหยัด รสเลิศได้ที่นั่น
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org
http://www.tripadvisor.com
http://whc.unesco.org