ที่ชาร์ตแบตสํารอง กับการเดินทางบนเครื่องบิน

อันนี้ผมอาจจะตกข่าวนะครับ เพราะเกี่ยวกับการท่องเที่ยว (แต่ผมเพิ่งรู้จากพี่ชายท่านหนึ่งที่เพิ่งเดินทางไปต่างประเทศมา) ว่า ที่ชาร์ตแบตสำรอง ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ซึ่งถ้าใครพอจะรู้รายละเอียดแล้วอาจจะข้ามไปเลยก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม. ผมมีสาระดีๆเกี่ยวกับที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรองมาบอกเพื่อนๆวันนี้ครับ


ที่ชาร์ตแบตสํารองห้ามนำขึ้นเครื่อง

โดยเมื่อ 12 กันยายนที่ผ่านมา (2014) ทางการบินไทยได้ออกกฎห้ามนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน โดยแบ่งตามขนาดและความจุของแบตเตอรี่สำรอง

– ไม่อนุญาติให้นำแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าเกินกว่า 32,000 mAh ขึ้นบนเครื่องบิน

– แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้า 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 2 ก้อนเท่านั้น

ทั้งนี้ด้วยมีเหตุการณ์แบตเตอรี่สำรองระเบิดบนสายการบินอื่น ซึ่งทางการบินไทยและผู้เกี่ยวข้องหวั่นเกิดอันตรายกับผู้เดินทาง ซึ่งทั้งนี้อาจก่อผลให้เกิดเหตุการณ์อันตราย เช่น เครื่องบินตกได้เลยทีเดียว

Infographic ของทางการบินไทยที่ได้เสนอให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้าใจถึงขนาดและการอนุญาติของการทำที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่อง

ที่ชาร์ตแบตสํารอง

สรุปเกี่ยวกับที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรอง และ การนำขึ้นบนเครื่องบิน

ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่อง แต่ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้

– ที่ชาร์ตแบตสํารองที่สามารถนำใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ต้องมีขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh

– ที่ชาร์ตแบตสํารอง ความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 20,000 mAh (หรือต่ำกว่า 100 Wh) สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ (ไม่มีการระบุจำนวน)

– ที่ชาร์ตแบตสํารอง ความจุไฟฟ้าระหว่าง 20,000-32,000 mAh (หรือระหว่าง 100-160 Wh) สามารถนำติดตัวขึ้นบนเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน

– ที่ชาร์ตแบตสํารอง ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh (หรือสูงกว่ากว่า 160 Wh) ห้ามนำขึ้นเครื่องไม่ว่าจะติดตัวหรือโหลดลงใต้เครื่อง

**ทั้งนี้หากผู้โดยสารรายใดที่ต้องการนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน กรุณาสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่เมื่อทำการเช็กอิน**


 สาเหตุของการออกกฎ

โดยทั้งนี้. ทาง ผอ. บริหารภาวะฉุกเฉินและวิกฤติบริษัท ของ บริษัทการบินไทย ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับการห้ามนำที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องว่า . . . เพราะว่าสายการบินต่างประเทศได้มีอุบัติเหตุเพลิงไหม้ที่มีสาเหตุมาจากแบตสำรองระเบิด ทางการบินไทยจึงจำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อป้องกันความปลอดภัยของผู้โดยสาร เพราะแบตเตอรี่สำรองนั้นเป็นวัตถุอันตรายสามารถระเบิดได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อที่มีคุณภาพหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากแบตเตอรี่นั้นเป็นลิเธียม ซึ่งลิเธียมนั้น หากเกิดความร้อนสูง จะระเบิดและติดไฟได้ โดยยิ่งความจุไฟฟ้ามากโอกาสเกิดการระเบิดก็จะยิ่งง่ายตามไปด้วย (ความเห็นส่วนตัว คือมันก็ไม่ได้ระเบิดง่ายหรอกครับ ไม่งั้นคนคงเอามาปาแทนระเบิดแล้วมั้ง) โดยความแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 32,000 mAh นั้นสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ ซึ่งหากระเบิดหรือเกิดเพลิงไหม้ ลูกเรือ สามารถระงับเหตุได้อย่างไม่ยากเย็น


ข้อมูลน่ารู้ของ ที่ชาร์ตแบตสํารอง

  • อะไรคือ ที่ชาร์ตแบตสํารอง

แบตเตอรี่สำรองที่ใช้กันในปัจจุบัน เป็นที่ชาร์ตภายนอกใช้สำหรับโทรศัพท์มือหือ หรือ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคอื่นๆ

  • ที่ชาร์ตแบตสำรองส่วนมากผลิตจากที่ไหน

95% ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังแค่ไหน ก็ made in China

  • ชาร์ตที่ชาร์ตแบตสํารองอย่างไร

ชาร์ตผ่านสายที่มากับโทรศัพท์มือถือ usb ของคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคอื่นๆ รวมทั้ง power bank อื่นด้วย

  • แบตเตอรี่สำรองต้องชาร์ตนานแค่ไหน

ขึ้นอยู่กับความจุไฟฟ้าของที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรอง ยิ่งจุไฟฟ้าได้มาก ยิ่งจำเป็นต้องชาร์ตนานขึ้น | ชาร์ตกับที่ชาร์ตที่ติดมากับอุปกรณ์จะเร็วกว่า ชาร์ตกับช่องเสียบ USB ของคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ้ค

  • ทำไมแบตเตอรี่เหมือนกันถึงใช้เวลาชาร์ตไม่เท่ากัน

แม้ว่าแบตรุ่นเดียวกับ ใช้วิธีชาร์ตแบบเดียวกัน เวลาอาจจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศ ความเสถียรของการวิ่งของไฟจากแหล่งที่ชาร์ต

  • อะไรคือ mAh

mAh ย่อมาจาก milli Ampere Hour (มิลลิ แอมแปร์ อาวร์), ความจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่สำรองวัดด้วย mAh

  • อายุการใช้งานของแบตเตอรี่มือถือเสื่อม (Phone Battery Health)

ทุกๆคนคงรู้กันดีกว่า แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือนั้นจุได้น้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะแบตเตอรี่ทุกอย่างมีอายุความเสื่อมตามกาลเวลา และการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นที่ดีแค่ไหน แพงแค่ไหน แบตเตอรี่ก็เสื่อมไปตามกาลเวลาเช่นกัน โทรศัพท์ที่ใช้มา 2-3 ปี อาจจะหมดเร็วกว่า แบตเตอรี่ของโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ถึง 2 เท่า (นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมโทรศัพท์ของคุณชาร์ตเต็มเร็วขึ้น แต่ใช้งานได้แป็ปเดียว)

  • ข้อแตกต่างของที่ชาร์ตแบตสำรองมียี่ห้อ กับ ที่ชาร์ตแบตเตอรี่สำรองโนเนม

ที่ชาร์ตแบตสำรองที่มียี่ห้อนั้นขายโดยไม่โกงหกความจุไฟฟ้าจริง โดยแบตเตอรี่โนเนมส่วนมากแปะป้ายความจุไฟฟ้าสูงสุด นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมคุณไม่เคยเห้นแบตเตอรี่สำรองแบรนด์ดังมีความจุไฟฟ้าสูงเกินจริง (30,000mAh – 50,000mAh) โดยทางผู้ชำนาญเรื่องแบตเตอรี่แนะนำว่าซื้อแบบมียี่ห้อยังไงก็มีคุณภาพมากกว่า

  • จริงหรือไม่ที่ แบตเตอรี่สำรองมียี่ห้อไม่ระเบิด แต่แบรนด์โนเนมระเบิด?

ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่โทรศัพท์ หรือแบตเตอรี่อะไรก็ตาม มีโอกาสที่จะระเบิดได้ทั้งหมด จะแบรนด์หรือโนเนมก็ระเบิดได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม. โอกาสในการระเบิดของแบตเตอรี่นั้น เรียกว่าแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ (near to 0%) ซึ่งถ้าแบตเตอรี่สำรองระเบิดง่ายๆ โจรใต้คงเอามาขว้างกันแทนระเบิดมือแล้วครับ

ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากพี่หนุ่ม ร้านแบตเตอรี่รถยนต์ แถวบ้านครับ